|
|
เมืองชเวกยิน
“กองทหารพม่ายิงใส่กระท่อมของเรา ผมได้รับบาดเจ็บที่เข่าก่อนที่พวกเขายิงผม จากนั้น ผมก็ล้มลงที่พื้น พวกเขาไม่ได้ช่วยผม แต่พวกเขาทิ้งผมไว้ที่นั้น และเอาข้าวของๆ ผมไปหมด”
เซอ เก ได้รับการรักษาบาดแผลจากการถูกยิงที่สะโพก วันที่13 ตุลาคม |
วันที่ 9 ตุลาคม 2007 กองทหารพม่ายิงเข้าใส่ครอบครัวในกระท่อมของพวกเขา และทำให้หญิงสองคนบาดเจ็บ ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่พวกทหารเดินลาดตะเวณในหมู่บ้านทิ บลา ในเมืองชเวกิน ทางใต้ของเขตเงียวลี่บิ่น รัฐกะเหรี่ยง ตะวันออกของพม่า นางเซอ เก อายุ 45 ปี และนางสาว ที ลา อายุ 16 ปี อยู่ในกระท่อมแห่งนั้นพร้อมกับสมาชิกครอบครัวอีกสามคนในขณะที่กองทหารพม่าเข้ามา และเริ่มยิงสาดเข้ามาในระยะใกล้ สมาชิกครอบครัวสามคนนั้น สามารถหลบหนีออกมาได้โดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ แต่หญิงสองคนดังกล่าวถูกยิงขณะที่พวกเธอพยายามที่จะหลบหนี หนึ่งในนั้น ถูกจับกุม และทหารพม่าได้ถ่ายรูปของเธอไว้ ในตอนที่เธอล้มลงและได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า
บาดแผลจากการถูกยิงที่สะโพกของนางเซอ เก วันที่ 13 ตุลาคม |
ตามคำบอกเล่าของนางเซอ เก ผู้ซึ่งเป็นแม่ม่าย ขณะนี้เธอมีอายุ 45 ปี “กองทหารพม่ายิงเข้าใส่กระท่อมของเรา เรามีด้วยกันทั้งหมดห้าคนในกระท่อม ฉันกับหลานสาวได้รับบาดเจ็บ แต่คนอื่นๆ หนีไปได้หมด ยกเว้นฉันคนเดียว กองทหารพม่าเอาถุงของฉัน จานชาม หม้อ เสื้อผ้า และพวกเขากินไก่ของฉัน หลังจากที่พวกเขายิงฉันแล้ว พวกเขาสั่งให้ฉันนั่งลง และพวกเขาก็ถ่ายรูปของฉันไว้ แล้วก็ถ่ายบริเวณกระท่อมของเรา ทหารที่ถ่ายรูปพูดกับฉันเป็นภาษากะเหรี่ยง จากนั้น เขาก็คืนถุงให้กับฉัน
แต่ทหารอีกคนก็มาฉวยเอากลับไปอีก ฉันขอให้พวกทหารช่วยพาฉันกลับไปยังกระท่อมของฉัน เพราะฉันเดินไม่ได้แล้วเพราะถูกยิงเข้าที่สะโพกและบาดเจ็บที่หัวเข่าตอนที่ฉันล้มลง พวกเขาไม่ช่วยฉัน เขาทิ้งฉันไว้ที่นั่น แล้วก็เอาข้าวของๆ ดิฉันไปจนหมด เรื่องมันเกิดขึ้นตอน 8 โมงเช้า พอตอนบ่าย 3 โมง ทหารกะเหรี่ยงผ่านมาที่นี่ แล้วพวกเขาก็พาฉันไปที่คลินิก
ที ลา อายุ 16 ถูกยิงที่แขนโดยทหารพม่า วันที่ 14 ตุลาคม |
ที ลา เล่าว่า “กองทหารพม่ายิงฉัน และทำให้แขนขวาของฉันบาดเจ็บ ตอนนั้น ฉันซ่อนตัวอยู่ใต้กระท่อมของฉัน หลังจากที่ฉันถูกยิง ฉันลุกขึ้นวิ่งหนี มันเกิดขึ้นตอน 8 โมงเช้า”
เด็กชาย เอ วา อายุ 14 ปี ลูกชายของนางเซอ เก กล่าวว่า “เพราะพวกกองทหารพม่าเข้ามาโจมตีหมู่บ้านของเรา ผมจึงไม่สามารถไปโรงเรียนได้อีกต่อไปแล้ว โรงเรียนของผมปิดลง และตอนนี้ผมต้องไปอีกโรงเรียนหนึ่ง มันจะเป็นอย่างนี้ตลอดทั้งปีนี้ และผมก็ไม่สามารถเรียนหนังสือที่โรงเรียนของหมู่บ้านของผมเองได้”
พ่อของนางสาวที ลา นายโพ โด อายุ 40 ปี กล่าวว่า “กองทหารพม่าเข้ามา แล้วก็ยิงเข้าใส่กระท่อมของเราตอน 8 โมงเช้า วันที่ 9 ตุลาคม เราทั้งหมดวิ่งหนี แต่ลูกพี่ลูกน้องของผมถูกจับได้ เราทั้งห้าคนหนีกันไปคนละทิศคนละทาง และเราหากันไม่เจอจนกระทั่งเราไปถึงยังที่หลบซ่อน หลังจากที่ทหารพม่ายิงใส่เรา พวกเขาเอาข้าวของๆ พวกเราไปจนหมด ฆ่าหมูของเรา และกินมัน พวกเขาเอาข้าวของผมไป และทำลายของอื่นๆ ที่พวกเขาเอาไปไม่ได้ ทุกคนกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในตอนนี้ และโรงเรียนก็ต้องหยุดไป เด็กๆ ก็ไปหาคุณครูของพวกเขาไม่ได้”
การโจมตีเหล่านี้ทำโดยกองทหารพม่า LIB 217 ภายใต้ผู้บัญชาการกองพัน ตา เท ออง กองทหารพม่ายังคงดำเนินการลาดตะเวณหุบเขาทางตะวันตกของเขตงองลี่บิ่น ซึ่งทำมาตั้งแต่ต้นปี 2006 นโยบายของพวกเขาก็คือ ยิงชาวบ้านที่พบเห็น ขโมย ฉกฉวยข้าวของ ทำลายบ้านและยุ้งฉาง ที่เก็บอาหาร และวางกับระเบิด นโยบายเหล่านี้ถูกวางมาเพื่อข่มขวัญประชาชน และทำให้พวกเขาไม่สามารถที่จะดำเนินชีวิตได้
เมืองมอญ – หมู่บ้านถูกโจมตีและเผา
ในวันที่ 13 ตุลาคม กองทหารพม่าได้เข้าโจมตีและยิงปืนครกเข้าที่หมู่บ้านยอ คี จากนั้น พวกเขาเข้าไปในหมู่บ้าน เผาบ้านสิบหลัง และโบสถ์อีกหนึ่งแห่ง สิบเก้าครอบครัวที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านยอคี และคนทั้งหมดจำนวน 120 คนได้หนีเข้าไปในป่า ชาวบ้านไม่ทันได้มีเวลาที่จะไปเอาข้าวจากยุ้งฉางของพวกเขา กองทหารพม่าฉกฉวยข้าวของจากหมู่บ้าน และยังได้ฝังกับระเบิดไว้ในหมู่บ้านอีกเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านที่หลบซ่อนตัวอยู่ไม่กล้ากลับมายังหมู่บ้านเพื่อหาข้าวของที่อาจจะยังเหลืออยู่ เนื่องจากพวกเขากลัวกับระเบิด และกองทหารพม่ายังคงทำการลาดตะเวณ และยิงปืนครกเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวอยู่เป็นประจำ หมู่บ้านยอคีตั้งอยู่ที่ (lat/long. N 18 42 33 E 096 54 40) อยู่ในเมืองมอญ เขตเงียวลี่บิ่น ตะวันตกของรัฐกะเหรี่ยง ตะวันออกของประเทศพม่า
ทหารพม่าเคลื่อนพลในเมืองมอญ กันยายน 2007 |
ทหารพม่ากำลังเคลื่อนพลในเมืองมอญ กันยายน 2007 |
หลังจากที่โจมตีหมู่บ้าน กองทหารพม่ากลับไปยังค่ายของพวกเขาที่ลอ คา โค ค่ายแห่งนี้เป็นค่ายขนาดเล็ก เป็นสาขาของค่ายบูซากี ในตอนใต้ของเขตตองอู
ในวันที่ 6 ตุลาคม ผู้บัญชาการกองปฏิบัติการทหารพม่า นาย คิด เมือง โอ ได้สั่งให้ทุกคนจากหมู่บ้าน โง พูม ซอ มิ ลู และ ธาโบ ให้อยู่ในหมู่บ้าน จากนั้นกองทหารจาก LIB 351 ได้ทำการลาดตะเวณพื้นที่โดยรอบ ฝังกับระเบิดเพื่อที่จะจำกัดการเดินทางของชาวบ้านระหว่างที่ราบและภูเขา
ในวันเดียวกันนั้น กองทหารพม่า LIB 378 และ 379 จาก ค่ายทหารโพโรโซ ได้ยิงปืนครก และปืนกลเข้าใส่ชาวบ้านที่กำลังเดินทางไปเอาข้าวมาให้กับครอบครัวที่กำลังซ่อนตัวของพวกเขา
ภูมิหลัง
การโจมตีล่าสุดนี้ เป็นความต่อเนื่องของแผนการอันโหดเหี้ยมของกองทหารพม่า ที่จะบังคับให้ชาวบ้านเข้าไปหลบซ่อนตัว หรือย้ายเข้าไปอยู่ในที่สำหรับผู้ย้ายถิ่นในทางเหนือของรัฐกะเหรี่ยง ตะวันออกของประเทศพม่า ในห้าเดือนที่ผ่านมา ประชาชนมากกว่า 6,000 คน ได้หนีการโจมตีตรงๆ นี้ และพวกเขานับร้อยคนได้หนีจากการบังคับใช้แรงงาน การบังคับย้ายถิ่นฐาน และการขาดอาหาร
กลยุทธ์ของกองทหารพม่านั้นประกอบไปด้วย การโจมตี และการลาดตะเวณอย่างต่อเนื่อง นโยบายการยิงผู้ที่พบเห็น การทำลายทรัพย์สิน การบังคับใช้แรงงาน และข้อบังคับที่เข้มงวดต่อกิจกรรมของหมู่บ้านที่อยู่ภายใต้การควบคุม สถานการณ์ยังเต็มไปด้วยความยากลำบากสำหรับชาวบ้านส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บนภูเขา พวกเขาจำนวนมากได้หลบซ่อนอยู่ตามป่าเขามาเป็นเวลามากกว่าหนึ่งปี ชาวบ้านที่อยากจะคงอยู่อาศัยที่นั่น และผู้ที่นำความช่วยเหลือมาให้ ต่างเผชิญกับความยากลำบากที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายเส้นทางถนน และค่ายทหารพม่าตลอดภาคเหนือของรัฐกะเหรี่ยง ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในที่ราบก็เผชิญกับความลำบากที่จะอยู่รอดเช่นเดียวกัน อันเนื่องมาจากการขู่กรรโชกของกองทหารพม่า ข้อบังคับในการเดินทาง และข้อเรียกร้องมากมายสำหรับการบังคับใช้แรงงาน
การโจมตีเหล่านี้ และการพลัดถิ่นเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบในการพลัดถิ่นในรัฐกะเหรี่ยง ในทางเหนือของรัฐกะเหรี่ยงที่เดียวนั้น มีผู้พลัดถิ่นอันเกิดมาจากการถูกโจมตีมากกว่าสามหมื่นคน นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2006
จบการรายงาน